ผลิตภัณฑ์เซรามิคในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาขึ้นมามาก ทำให้เกิดการพัฒนาคุณสมบัติที่ดีต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น งานเซรามิคมีความแข็งแรงและความทนทานเป็นอย่างมาก สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน รวมถึงทนต่อการสึกกร่อน และการเสียดสี จนในปัจจุบันเราสามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับงานเซรามิคได้จนสามารถนำไปทำเป็นค้อนหรือพื้นกระเบื้องที่ต้องรับน้ำหนักหรือแรงกดมหาศาลได้เป็นอย่างดี เซรามิคยังทนความร้อนสูงได้ดีมากอาจจะถึงระดับ 1,000 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์เซรามิคจะไม่นำความร้อน ต่างกับวัสดุอื่น ๆ เช่น โลหะ หรือแก้วที่ส่งผ่านความร้อนได้ดี ทำให้เหมาะที่จะนำไปผลิตเป็นภาชนะใส่อาหารได้เป็นอย่าดีที่สำคัญเซรามิคยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ทำให้สามารถนำไปผลิตเป็นชิ้นงานที่มีประโยชน์อีกมาก
จากคุณสมบัติที่ดีของงานเซรามิค ทำให้งานเซรามิคเป็นที่นิยมกันอย่างมาก ถือว่าเป็นชิ้นงานที่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งด้านการใช้สอยและความต้องการทางด้านจิตใจอีกด้วย ทำให้งานเซรามิคในปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งาน ในปัจจุบันงานเซรามิคยังคงอยู่ในความต้องการของคนทั่วไปอีกมากข้อดีในการใช้งานของผลิตภัณฑ์เซรามิคเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นพบว่า เมื่อนำเซรามิคไปเปรียบเทียบกับเหล็กกล้าเมื่อนำไปใช้งานที่ต้องเจอสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เซรามิคจะไม่เกิดการผุกร่อนต่างจากเหล็กกล้าที่สามารถเกิดการผุกร่อนเมื่อเจอกับความชื้นและออกซิเจนในอากาศ ทำให้ระยะเวลาการใช้งานของงานเซรามิคจะมีอายุที่มากกว่า ความร้อนสูงยังไม่ส่งผลต่อความคงทนแข็งแรงของเนื้องานเซรามิค แตกต่างจากวัสดุชนิดอื่นที่เมื่อเจอความร้อนความแข็งแกร่งและความทนทานจะลดลง สามารถเกิดการแตกหักเสียหายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ภายใต้การทดลองทางวิทยาศาสตร์ยังระบุอีกว่า เมื่อนำเซรามิคมาอัดกันภายใต้แรงดันสูงจะพบว่าพื้นผิวของชิ้นงานไม่เกิดร่องรอยความเสียหายต่างจากโลหะที่จะเกิดรอยขีดข่วนขึ้น ใน เรื่องของราคาในวัสดุงานเซรามิคนั้นถือว่ามีราคาถูกกว่างานที่ทำด้วยวัสดุชนิดอื่น แต่อย่างไรก็ตามย่อมขึ้นอยู่กับกรรมวิธีในการผลิตและประโยชน์ที่จะนำไปใช้อีกด้วย ทำให้ราคาของเซรามิคจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนอุตสาหกรรมและตลาดความต้องการ แต่อย่างไรก็ตามยังเทียบไม่ได้กับงานเซรามิคที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจโดยการสร้างขึ้นเพื่อเป็นผลงานทางศิลปะ โดยศิลปะที่แสดงออกในชิ้นงานเซรามิคนั้นมักจะเป็นการวาดลวดลายลงบนเนื้องาน โดยผลงานทางศิลปะที่ขึ้นชื่อต้องนึกถึงผลงานจากชาวจีนและชาวญี่ปุ่น ยิ่งเป็นวัตถุโบราณยิ่งมีคุณค่ามาก โดยเฉพาะชิ้นงานที่ทอดเวลามาจนถึงยุคปัจจุบัน แต่วิธีการสร้างสรรค์ผลงานกลับสูญหายไปกับอดีตและสงครามเป็นส่วนมาก มีส่วนให้งานศิลปะเหล่านั้นสูงค่ามากขึ้น