เซรามิก คือ วัตถุที่ปั้นเป็นรูปร่างที่ต้องการ จากดินเหนียว แร่ หิน ทราย หรือดินอื่นๆ จากนั้นนำไปเผาเพื่อให้วัสดุนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป็นภาชนะหรือเครื่องใช้อื่นๆในครัวเรือน หรือเครื่องใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น เป็นเครื่องประดับ วัสดุทนไฟ ฉนวนไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่ง ส่วนที่เป็นภาชนะนั้นมีเกือบทุกประเภทตั้งแต่ หม้อ ไห ถ้วย ชาม เครื่องเคลือบดินเผา และในปัจจุบันมีการพัฒนาวัตถุดิบในการผลิตเซรามิคที่หลายหลาย และวิธีการเผาที่สามารถกำหนดคุณภาพ สีสัน หรือความเงางามของเซรามิกมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถนำไปใช้งานได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ดังนั้น แก้วเซรามิค ก็คือ เซรามิกที่สร้างขึ้นเพื่อมาเพื่อเป็นแก้วน้ำ แก้วกาแฟ หรือแก้วที่สามารถทนความร้อนได้ดี
เซรามิคมีกี่ประเภท?
เซรามิกสามารถจำแนกแยกประเภทได้ตามลักษณะการใช้งานได้แก่
- แก้ว คือ วัสดุเซรามิกชนิดหนึ่งที่มีความโปร่งใส มีความแข็งแรง และทนทานต่อการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี ถูกสร้างขึ้นจากวัตถุอินทรีย์ที่อุณหภูมิสูง
- ผลิตภัณฑ์ดิน คือเซรามิกที่มีองค์ประกอบจากอะลูมินาและซิลิกา เช่น อิฐ กระเบื้อง สุขภัณฑ์
- วัสดุขัดถู คือ เซรามิคที่มีความแข็งแรงสูง สามารถขัดถูวัตถุอื่นได้ให้ผิววัตถุนั้นเกิดความราบเรียบหรือมันวาวได้ เช่น กระดาษทราย ผ้าทราย หินเจียระไน เป็นต้น
- ซีเมนต์ คือ ปูนซีเมนต์ เกิดจากการเผาดินกับปูนแล้วได้มาเป็นผง เมื่อนำไปผสมน้ำจะมีลักษณะคล้ายดินเปียก เมื่อปล่อยทิ้งไว้จะแข็งตัวและมีความแข็งแรงมาก ที่เราเห็นกันอยู่ก็เช่นปูนก่อ ปูนฉายที่ใช้ในงานก่อสร้างทั่วไป
- วัสดุทนไฟ คือ เซรามิกที่สามารถทนความร้อน ทนไฟได้ดี มีจุดหลอมเหลวสูง นิยมนำไปเป็นส่วนประกอบของเตาเผา หรืองานที่ต้องการวัสดุที่ทนความร้อนได้ดี
- เซรามิกวิศวกรรม คือ วัสดุเซรามิกที่ถูกนำไปใช้งานในงานเทคโนโลยีขึ้นสูง เช่น สารกึ่งตัวนำ ฉนวนไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุแม่เหล็ก หรือชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ เป็นต้น
ปัจจุบันเซรามิกได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีประโยชน์สำหรับเป็นภาชนะในการใส่อาหาร หรือน้ำในสมัยก่อน ปรับประยุกต์ตามยุคสมัยที่เซรามิกอาจจะได้รับความนิยมลดลงบ้างเพื่อใช้เป็นภาชนะ เพราะวัสดุอื่นที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าเซรามิกที่แตกหักได้ง่าย ราคาค่อนข้างแพงกว่า วิธีทำยากกว่า มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า อย่างเช่น พลาสติกที่ยืดหยุ่นสูง แต่ไม่สามารถทนความร้อนสูงได้อย่างเซรามิก หรือะลูมิเนียมที่ไม่แตกหักง่าย ทนความร้อนสูงได้ แต่ไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีบางประเภทได้
ผู้ประกอบผลิตเซรามิกจึงหันไปผลิตเพื่อจุดประสงค์อื่นๆเพื่อสามารถแข่งขันได้ เช่น การทำเซรามิกเพื่อเป็นเครื่องประดับ ของชำร่วย ของฝาก ของสะสมที่มีความสวยงาม หรืออื่นๆอีกมากมาย เท่าที่คนออกแบบสร้างสรรค์สามารถจะทำให้เซรามิกได้มีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนต่อไปได้